บอกตามตรงว่าหลังจากปี 2011 ที่ ภาพยนต์ชุด Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 ออกฉายเรื่องสุดท้ายของซีรีย์นี้ ก็แอบน้ำตาซึมนิดๆ เพราะเหมือนเราโตมากับมันมาตลอดแล้วจู่ๆก็หมด ไม่รู้จะต้องรออะไรแล้ว เลยแบบ ช็อคๆ เอ่อะ จบแล้วหรอว้า... เราเองเริ่มอ่านเรื่องแฮรรี่ตอนก่อนหนังประกาศสร้างแค่ 1 ปี ตอนนั้นเรายังมัธยมต้นอยู่ หนังสืออกมาแค่ 4 เล่ม หลังจากนั้นก็เริ่มติดตามหนังไปพร้อมๆกับรอหนังสือเล่มต่อไปเรื่อยๆ จนเรียนจบ จนทำงาน.. โห มันนานมากๆๆ ในชีวิตคนๆนึง ตามดูหนังทุกภาคจนเรียนจบอะ มันจะมีกี่เรื่องที่ทำได้กัน..
ดูจบ 8 ภาค แล้วสภาพเป็นแบบนี้
หลังจากนั้น ไม่นานก็มีประกาศว่าจะสร้างภาพยนต์ชุดนี้อีก แต่จากหนังสือ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ Fantastic Beasts and Where to Find Them ซึ่งมันเป็นตำราเรียนที่แฮรรี่เรียน ตูก็งงเนอะ มันจะเป็นหนังได้ยังไงวะ ก็เลยแบบว่า ทำเบลอๆลืมๆมันไป เพราะด้วยช่วงวัยด้วย ทำให้ลืมโลกพ่อมดของแฮรรี่แทบหมดแล้ว ทั้งๆที่แต่ก่อนเรียกได้ว่าจำได้ทุกบทว่าตอนไหนอยู่บทไหน
อีหนังสือเรียนเล่มนี้มันจะออกมาเป็นหนังได้อย่างไรกัน
จนถึงวันที่หนังเข้าฉาย... ทางนี้ไปดูวันแรกเลยจ้า (ไม่เห่อนะ แค่รอดูเฉยๆ..) ปรากฏว่า เฮ้ย มันสนุกมาก เหมือนเปิดโลกใหม่หมดทุกอย่าง มีพื้นฐานแค่ว่าพ่อมดมีไม้กายสิทธิ์ มีคาถาที่เคยได้ยินบ้างอย่าง อะโลโฮโมร่า และมีตัวละครที่พ่วงมาจากแฮรรี่ พอตเตอร์อยู่นิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงเลย ตลอดเวลาที่นั่งดูหนัง เหมือนเราได้เข้าไปในโลกของคุณนิวท์ สคามันเดอร์ ตัวเอกของเรื่องที่เป็นพ่อมดมาจากอังกฤษ แล้วเราได้ไปผจญภัยในดินแดนแห่งใหม่พร้อมๆกับเขา
ทุกสิ่งทุกอย่างดูตื่นตาตื่นใจมาก ตั้งแต่สัตว์ต่างๆของคุณนิวท์ โลกพ่อมดนิวยอร์คในยุคเก่า รวมไปถึงงานCG ที่เชื่อว่าถ้าดูระบบ 3D ต้องฟินมากแน่ๆ (แต่เราดูระบบธรรมดา ว่าจะไปดูอีกรอบ...)
ชอบโปสเตอร์อันนี้ง่ะ
และที่ทำให้หวีดที่สุดก็คือ.....
คุณนิวท์ สคามันเดอร์พ่อหนุ่มเนิร์ทสุดของชั้นนนนนนนนนนน
ครั้งแรกที่เราเห็นคุณนิวท์ ตัวเอกของเรื่อง ดูเนิร์ทๆ ระแวงๆ หลบตา กลัวผู้คน พูดอะไรอุบอิบๆคนเดียวจนแบบ เอ๊ะ ตานี่ โอตาคุใช่ไหม 555 ซึ่งก็จริงละ โอตาคุจริงๆด้วย! แต่พอเข้าซีนที่เข้าไปในกระเป๋าของเขา เข้าไปอยู่ในโลกของเขา นิวท์ดูผ่อนคลายมากๆ ดูมีความสุขกับสัตว์ของเขา อบอุ่น กลายเป็นอีกบุคลิคนึงเลย เราว่าจุดนี้ Eddie Redmayne แสดงออกมาได้ดีมากๆ ดูแล้วหลงรัก จนไปถึงหวีดในที่สุด 55555
อ่อนโยนละมุนเหลือเกิน พ่อคุณเอ้ยยย
ยิ่งได้มาอ่านบทสัมภาษณ์ของเอ็ดดี้ว่าเขาฝึกซ้อมมาขนาดไหน ก็ยิ่งรู้สึกปลื้มเขาอ่ะ เอ็ดดี้บอกว่าปกติเขาจะรับบทเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆในประวัติศาสตร์ แต่ครั้งนี้ เขาต้องมารับบทเปนตัวละครในจินตนาการของ เจเค เขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆคุยกับเจเคเรื่องนิวท์ และฝึกศึกษาวิธีการเดินมาจากคนที่เดินป่า (เทคนิคการเดินย่องทีละก้าวๆ เหมือนลักษณะที่นิวท์เดินในภาพยนต์) ตลอดไปจนการสร้างรอยแผลเป็นบทตัวนิวท์ ทุกรอยต้องมีประวัติ ทำให้รู้สึกว่า เอ็ดดี้เป็นคนที่ทุ่มเทกับบทที่ได้รับมากๆ แต่ก่อนเราพอรู้จักเอ็ดดี้มาบ้างว่าเขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆคนนึง มาครั้งนี้ได้ดูผลงานของเขาแล้วยอมรับจริงๆว่าเอ็ดดี้เก่งมากๆ ปลืืื้มมม
ชอบชอตเกาเจ้านิฟเฟอร์มาก ดวงตาเป็นประกายและรอยยิ้มแบบนี้ โอยยยยยยย
อีกคนที่เราอยากพูดถึงคือ Ezra Miller รับบทเป็นเครเด้นท์ หนุ่มน้อยที่ดูมีปริศนาตลอดเวลา เราคิดว่าเอชร่าเล่นได้ดีมากเลย ปกติเราเห็นเขานอกจอเป็นคนร่าเริงๆสนุกสนาน แต่พอในเรื่องเหมือนต้องแบกรับความกดขี่ไว้ตลอดเวลา มีเสี้ยววินาทีนึงที่เป็นไคล์แม็กซ์ของเรื่อง เขาก็ทำออกมาได้น่าสงสารและเข้าถึงคาแรกเตอร์มากๆ เชื่อว่าเอชร่าจะเป็นดาวรุ่งอีกคนนึงที่น่าจับตามองมากๆตอนนี้
แต่บอกตรงๆ เกลียดทรงผมนางมากกก ฮือออ
อีกหนึ่งคู่ที่เราสนใจคือ ควีนนี่และเจค็อบ แม่มดและเจ้ามักเกิ้ล (ที่เมกาเขาเรียกว่า โน-แมจ) เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ เหมือนเป็นรักต้องห้ามเล็กๆ แต่ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจได้ตลอดเรื่อง
ดูจบก็เหมือนกลับไปเป็นวัยเด็กอีกครั้งที่ได้ดูแฮรรี่พอตเตอร์ครั้งแรกในชีวิต เราสังเกตว่าคนในโรงส่วนใหญ่ก็วัยรุ่น-วัยกลางคนกันทั้งนั้น คล้ายๆกับเรื่องนี้เป็นการดึงเด็กๆที่เฝ้ารอดูแฮรรี่พอตเตอร์ในวันนั้นกลับมาผจญภัยในโลกพ่อมดอีกครั้งพร้อมคุณนิวท์ ดูแล้วมีความสุข อบอุ่น จนอยากจะกลับไปอ่านหนังสืออีกสักรอบ ...
ชอบชอตนี้จนเอาไปวาดรูปเล่น น่ารักกกกกกกกกกก
ปล. โพสนี้จริงจังไปป่ะวะ 555
คุณนิวท์ สคามันเดอร์พ่อหนุ่มเนิร์ทสุดของชั้นนนนนนนนนนน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in